What Kind of Person Are You คุณเป็นคนประเภทไหน?
หากนึกถึงเรื่องที่จะทำให้คุณเอ็นจอยกับชีวิตสักเรื่องนึง บางคนหนึ่งในลิสต์น่าจะมีการทำอาหาร รวมอยู่ในลิสต์นั้นด้วย หลายๆ คนมีความสุขกับการทำอาหารมากพอๆ กับการทำกิจวัตรอย่างอื่นก็ว่าได้ ซึ่งนอกจากลักษณะการทำอาหารเลยไปจนถึงรสชาติแล้ว ยังสามารถบ่งชี้คาแรกเตอร์ และตัวตนของคุณได้ด้วย
- มีความคิดสร้างสรรค์
การมีความคิดสร้างสรรค์ดูแล้วก็สามารถพูดได้ว่ามีส่วนเกี่ยวเนื่องเป็นอย่างมากในการพัฒนาคน ผู้คนที่จะสามารถคิดสูตรอาหาร เมนูอาหาร หรือวิธีการทำอาหารในแบบใหม่ๆ ขึ้นมาได้ ถือว่าเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์อยู่ในตัวเองระดับหนึ่ง อย่างการทำอาหารทานเอง เราอาจจะใส่ความคิดสร้างสรรค์ของเราออกมาในแบบต่างๆ หากเราใช้ความคิดสร้างสรรค์กับสิ่งใกล้ตัวแล้วจะทำให้เรากล้าที่จะแสดงความคิดของเราในเรื่องต่างๆ อีกด้วย
- กล้าลองผิดลองถูก
การประกอบอาหาร เราจะต้องตัดสินใจในการลงมือเลือกส่วนผสม ใส่เครื่องปรุง ปรับเปลี่ยนเทคนิคการทำเพื่อให้ได้สิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิม หากเปรียบกับการทำงาน ถ้าไม่ลองลงมือทำด้วยตัวเองก็จะไม่รู้ว่าตนเองสามารถทำงานนั้นได้หรือไม่ หรือผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร
- ใฝ่หาความรู้ใหม่ๆ
เนื่องจากการใฝ่หาความรู้ต้องมีความรอบคอบ และสุขุมมากพอสมควร งานใดๆ หรือการทำอาหารใดๆ หยุดอยู่ที่เดิมอาหารนั้นก็เหมือนงานชิ้นหนึ่ง ทำอาหารรสชาติเดิมถึงแม้จะอร่อยแล้วแต่ก็อย่ามั่นใจว่าคนอื่นจะทำไม่ได้เหมือนเราควรรักษาไว้อย่าให้ตกหล่น และทำให้อร่อยยิ่งขึ้นโดยอาจจะเพิ่มสีสีนเข้าไปในอาหารชวนให้น่ากินพร้อมทั้งอร่อยอยู่แล้วทำให้คำบรรยายของคำว่าอร่อยนั่นหาคำมาแทน และหาข้อเปรียบเทียบยากนัก เช่นเดียวกับการทำงาน ถ้าทำงานแบบเดิมๆ คนอื่นๆ ก็สามารถทำได้ควรจะเปลี่ยนแนวคิดเป็นผู้เริ่มบุกเบิกบ้างอาจจะเติมแต่งการทำงานทำให้ผลงานที่ได้ออกมาดูดีกว่าเดิม เพื่อนร่วมงานทำงานกันในรูปแบบใหม่ๆ ลองจัดการเปลี่ยนแปลง ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็ให้ปรุงแต่งทดลองเพื่อความแปลกใหม่ อาหารที่แปลกใหม่ทั้งๆ ที่อร่อยอยู่แล้วต้องมีคนชอบมากกว่าแน่นอน เหมือนกับงานที่ดีอยู่แล้วนำมาดัดแปลง ใฝ่หาความรู้มาดัดแปลงเพิ่มเติมเข้าไปก็อาจทำให้งานที่ออกมานั้นดี และหาผู้ใดหรือสิ่งใดมาเทียบยาก
- อดทน
การทำอาหารต้องใช้ความอดทนสูงทั้งขณะทำหรือแม้แต่เมื่อทำเสร็จแล้ว ทำครั้งแรกอาจจะไม่อร่อย เราก็ต้องอดทนและปรับปรุงรสชาติเราไปเรื่อย มีการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ ตรงนี้เราก็เอามาใช้กับการทำงานได้ ไม่ว่างานใดๆ เราก็ต้องใช้ความอดทนกันแทบทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความอดทนจากความเหน็ดเหนื่อย ความอดทนจากการรอดูความก้าวหน้าของตัวเอง เป็นต้น
- สามารถสร้างสรรค์ทุกอย่างได้
การทำอาหารเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่อาศัยความชำนาญ รสนิยม และจินตนาการ ผู้ที่ชอบทำอาหารจึงสามารถสร้างสรรค์ส่วนประกอบต่างๆ ให้มารวมกันได้อย่างลงตัว ทั้งหน้าตา และรสชาติ
- รู้ความสำคัญก่อนหลัง
การทำอาหารนั้นถ้าเราไม่รู้หรือให้ความสำคัญกับลำดับก่อนหลัง ในการผสมผสานเครื่องปรุงและส่วนประกอบต่างๆ ที่ทำให้กลายมาเป็นอาหารจานเด็ดรสเลิศ ขึ้นมาให้ทุกคนได้ชิมกัน หากแต่ว่ามีอะไรๆ ก็ใส่ลงไป ให้ผสมกันเอง นั่นแสดงถึงความไม่เอาใจใส่ในอาหารที่ทำและแสดงถึงความมักง่ายของผู้ประกอบอาหารไม่มีการวางแผน ถ้าเปรียบกับการทำงานต่างๆ นั่นก็หมายถึงว่าการทำงานของคุณไม่มีการกำหนดลำดับว่าควรทำอะไรก่อนอะไรหลังหรือไม่รู้จักวางแผน ก็ย่อมทำให้งานนั้นๆ ไม่ประสบความสำเร็จ
- นำความรู้มาปรับใช้ได้ดี
เมื่อมีการอ่านตำราการทำอาหารหรือการดูรายการทำอาหาร ก็จะนำมาฝึกทำเอง และตรวจสอบรสชาติให้เหมาะกับตัวเอง เมื่อเปรียบเทียบกับการทำงานก็จะนำความรู้ความสามารถ ความผิดพลาดของผู้อื่น และของตนมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
- รับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
การทำอาหารแต่ละครั้งก็ต้องให้ผู้อื่นได้ลองชิมรสชาติดูบ้าง ซึ่งก็จะได้รับทั้งคำติ และคำชม สิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ผู้ทำอาหารนั้นได้รู้ถึงความคิดเห็นของคนอื่นต่ออาหารจานนั้นๆ เพื่อจะได้นำมาปรับปรุงรสชาติให้ดีขึ้น เช่นเดียวกับการทำงาน ถ้าเรายอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นก็จะทำให้เรารู้จักพัฒนาตนเอง แก้ไขข้อบกพร่องของตัวเอง
- ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ
การทำอาหารไม่สามารถทำสำเร็จหรือทำให้อร่อยได้เพียงครั้งเดียว คนที่จะทำอาหารเป็น หรืออร่อยได้นั้นจะต้องใช้ความตั้งใจในการทำมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้ได้รสชาติที่ผู้บริโภคต้องการ เปรียบได้กับความพยายามในการทำงานใดๆ ครั้งแรกอาจจะออกมาได้ไม่ดีที่สุด แต่ถ้าหากมีความตั้งใจ ฝึกทำหลายๆ ครั้งก็จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดออกมา
นอกจากนี้การทำอาหารเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายความเครียดได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร หรือการทำอาหาร ซึ่งบางคนที่เกิดอาการเครียดจึงหาทางออกด้วยวิธีการดังกล่าว เพราะการได้ทำอะไรในสิ่งที่ตัวเองรักเป็นเวลาช่วงขณะหนึ่ง จะช่วยให้มีความสุขและลืมความทุกข์ไปได้