เรื่องราว
เหตุการณ์
ผู้คน
ความรู้สึก
ต่างเป็นปัจจัยที่ทำให้เราเคยดำดิ่งสู่หุบเหวแห่งความทุกข์ทรมานทางใจหลากหลายเรื่องราว แต่หากสืบหามูลเหตุแห่งปมปัญหา เราจะพบว่า ตัวแปรสำคัญที่นำไปสู่หุบเหวนี้ก็คือ “ตัวเราเอง” การจะละลายความเจ็บปวดให้คลี่คลายลงได้อย่างยั่งยืนต้องเริ่มที่ “ตัวเราเองเท่านั้น” เนื่องจากเป็นโรคที่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นจากใจของเรานั่นเอง Life elevated จึงขอเสนอแนะ 6 วิธีการบอกรักตัวเอง เพื่อเป็นทางออกในการละลายความเจ็บปวดภายในใจ เปลี่ยนการเดินทางของชีวิตที่เหลืออยู่ ให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ บนความรื่นรมย์อย่างแท้จริงและยั่งยืน
- หาสาเหตุของสรรพสิ่งให้พบ
หลัก “ปฏิจจสมุปบาท” คือรากฐานสำคัญในการอธิบายความเป็นเหตุเป็นผลที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน เพราะมีสิ่งนี้จึงเกิดสิ่งนั้น เพราะไม่มีสิ่งนั้นจึงไม่เกิดสิ่งนี้ ที่ยังโง่ ยังจน ยังเจ็บ ยังทุกข์ ยังย่ำอยู่ที่เดิม ไม่ใช่เรื่องราวของชะตาชีวิต แต่ล้วนมีเหตุและปัจจัยสนับสนุนทั้งสิ้น การนั่งคิดทบทวน หาสาเหตุของสรรพสิ่งให้พบ แล้วเราจะเห็น “สิ่งจริง” แก้ไข แล้วลุกขึ้นอีกครั้ง
- หยุดมีชีวิตในแบบเดิมๆ
การวนเวียนกระทำแต่ในสิ่งเดิมที่เรียกว่าความ “ซ้ำซาก” ทั้งในเรื่องของความคิดและการกระทำ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ไม่ได้พบกับความสำเร็จและความสุข การสลัดทิ้งจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ ดังนั้นควรเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต ทั้งวิธีคิดและพฤติการณ์ในมุมต่างๆ เช่น ออกเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ที่ไม่คุ้นชิน เรียนรู้ในสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยพบเจอ ออกพบปะพูดคุยหรือศึกษามุมมองความคิดจากคนในสังคมที่แตกต่าง ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ คือจุดเริ่มต้นที่มีผลต่อการฝึกคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อให้ผลลัพธ์ของชีวิตมีทางเลือกและแตกต่างจากผลลัพธ์ที่เคยเผชิญ
- มีความเชื่อความศรัทธาในตัวเอง
ผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ของชีวิต ล้วนสำเร็จขึ้นจากการมีศรัทธาในตัวเองเป็นพื้นฐาน หลายคนที่ประสบความสำเร็จในวันนี้ ล้วนมีอดีตที่เจ็บปวด อาจถูกทำร้าย ถูกข่มเหง รังเก หลายคนถูกดูแคลนหมิ่นหยาม หลายคนถูกโกง ถูกทรยศ แต่ถ้าวันนั้นพวกเขายอมพ่ายแพ้ต่อความเจ็บปวด ไม่เหลือความศรัทธาให้ตัวเอง พวกเขาคงไม่มีโอกาสได้เบ่งบานหรือประสบความสำเร็จเหมือนอย่างในวันนี้ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นกันแล้วมากมายในปัจจุบัน ดังนั้น หากเรามีศรัทธา นั่นหมายความว่า เราจะยังมีพื้นที่สำหรับทุกโอกาสเสมอ
- เลิกหมกมุ่นอยู่กับอดีต
หลายครั้งที่ความทุกข์เกิดขึ้นเพราะเราไม่เคยจดจำอดีตให้เป็นบทเรียน แต่กลับโอบกอดมันไว้เป็นตัวฉุดให้ต่ำลง อดีตจึงเห็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่ไปไหน เวียนว่ายอยู่ในวังวนเดิมๆ ตลอดจนการสิ้นเปลืองเวลาเพื่อเฝ้าโหยหาแต่อนาคตที่ยังมาไม่ถึง แน่นอนว่า “การอยู่กับปัจจุบันให้เป็น” เลิกหมกมุ่นถึงอดีตหรืออนาคต แต่ให้หมกมุ่นกับปัจจุบันโดยใช้เวลาทุกวินาทีอย่างมีคุณภาพให้เหมือนราวกับว่าเป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิต ซึ่งสิ่งนี้แหละจะช่วยพยุงให้ชีวิตเราดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
- ไม่หยุดการเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
โลกในปัจจุบันและอนาคตล้วนเต็มไปด้วยการแข่งขัน การบอกรักตัวเองด้วยการไม่หยุดการเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จึงอีกเป็นอีกหนึ่งทางออกสำคัญที่จะสร้างคุณค่าให้ตัวเองและนำไปสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นทักษะความรู้ หรือเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การเรียนภาษาต่างประเทศ การเรียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การฝึกฝนในอาชีพให้เกิดความเชี่ยวชาญ เมื่อเราเรียนรู้และพัฒนาตัวเองจนถึงขีดสุดก็จะทำให้เรามีข้อได้เปรียบ แตกต่างจากผู้ที่ขาดการเรียนรู้ ขาดการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
- หมกมุ่นกับการมีสุขภาพร่างกายที่ดี
ถือเป็นการบอกรักตัวเองที่มีคุณค่ามากที่สุด การมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแกร่งเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าจะเจอกับมรสุมใด ก็สามารถทลายฟ้ามืดให้กลายเป็นฟ้าสว่างได้ในระยะเวลาอันสั้น วินาทีนี้ไม่มีอะไรมีค่าไปกว่าการมีสุขภาพที่ดี เพราะอย่างอื่นนั้นเป็นสิ่งที่เราแสวงหาได้ สร้างได้ แต่สุขภาพนั้นไม่อาจแสวงหาอะไหล่มาเปลี่ยนหรือสร้างขึ้นมาใหม่ให้เข้ากันโดยสมบูรณ์ได้ หรือหากผู้ที่มีสุขภาพร่างกายที่เจ็บป่วยไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ขอให้รำลึกว่ายังมีสุขภาพใจที่จะต้องประคองให้แข็งแรง เพราะเป็นเรื่องจริงที่ว่าหากสุขภาพใจดีแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดที่น่ากลัว
การรักตัวเอง การชื่นชมตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อันใด เพราะเมื่อเรารักตัวเองมากพอแล้ว สิ่งเหล่านี้จะดึงดูดคนที่รักตัวเองมาเจอกัน ดึงดูดสิ่งดีๆ มาเจอกัน ก็เหมือนการดึงดูดผู้อ่าน มาพบเจอกับ Life Elevated นั่นเอง
อ้างอิง
https://www.thairath.co.th/women/life/motivation/1879717
https://www.istrong.co/single-post/howtoselflove
https://www.thairath.co.th/women/life/motivation/1821596