Home Body “น้ำมันปลา VS น้ำมันตับปลา” ชื่อคลับคล้าย แต่ประโยชน์ที่ได้ต่างกัน

“น้ำมันปลา VS น้ำมันตับปลา” ชื่อคลับคล้าย แต่ประโยชน์ที่ได้ต่างกัน

by Lifeelevated Admin1

เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง หลายๆ คนจึงพยายามสรรหาสิ่งดีๆ ให้แก่ร่างกายในการดูแลสุขภาพ อาหารเสริมจึงกลายมาเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม แต่คุณจะทราบได้อย่างไรว่าอาหารเสริมแบบไหนดี วิตามินแบบไหนเหมาะกับคุณ แล้ววิตามินแต่ละอย่างแตกต่างกันอย่างไร หรือแม้กระทั่งความเข้าใจผิดเรื่องน้ำมันปลา กับ น้ำมันตับปลา

เรามักจะต้องเคยได้ยินทั้ง น้ำมันปลา กับ น้ำมันตับปลา กันบ่อยๆ อยู่แล้ว แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า น้ำมันปลากับน้ำมันตับปลานั้น มีความแตกต่างกันอย่างไร ให้สรรพคุณที่เหมือนกันหรือไม่ แล้วอาหารเสริมทั้งสองอย่างนี้ อย่างไหนดีกว่ากัน Life Elevated มีข้อมูลความแตกต่างของน้ำมันปลาและน้ำมันตับปลามาฝาก

“น้ำมันปลา” คืออะไร

น้ำมันปลา (Fish Oil) คือ อาหารเสริมที่ได้รับการสกัดมาจากอวัยวะของปลา โดยสกัดจากบริเวณหนังปลา หัวปลา เนื้อปลา และหางปลา ซึ่งมักจะสกัดจากปลาจำพวก ปลาแมคเคอรอล ปลาแฮร์ริ่ง ปลาแอนโชวี่ ปลาทูน่า เป็นต้น สารอาหารสำคัญของน้ำมันปลานั่นก็คือ สารโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยในการป้องกันความเสี่ยงของโรคเรื้อรังต่างๆ และโอเมก้า 3 ที่ได้จากปลาและน้ำมันปลา ยังถือว่าเป็นโอเมก้า 3 ที่ดีกว่าการกินผักและผลไม้อีกด้วย

ประเภทโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลา ประกอบไปด้วย

  • กรดอีโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic acid) หรือ EPA
  • กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic acid) หรือ DHA
  • กรดไขมันแอลฟาไลโนเลนิก (Alpha-linolenic acid) หรือ ALA

สารอาหารเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

น้ำมันตับปลา คืออะไร

น้ำมันตับปลา (Cod Liver Oil) เป็นอีกหนึ่งอาหารเสริมที่มีการสกัดมาจากปลาเช่นเดียวกับน้ำมันปลา แต่น้ำมันตับปลาจะสกัดจากบริเวณที่เป็นตับของปลาจำพวก ปลาทูน่า ปลาเทราต์ ปลาแซลมอน ปลาแฮร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ปลาค็อด เป็นต้น

นอกจากน้ำมันปลาแล้ว น้ำมันตับปลาก็เป็นอีกหนึ่งอาหารเสริมที่อุดมไปด้วยสารโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ อาทิ

  • กรดอีโคซะเพนตะอีโนอิก (Eicosapentaenoic acid) หรือ EPA
  • กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic acid) หรือ DHA

ที่สำคัญ น้ำมันตับปลา ยังให้สารอาหารประเภทวิตามินในระดับที่สูงอย่าง วิตามินเอ และ วิตามินดี ด้วย

น้ำมันปลา กับ น้ำมันตับปลา ต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างของอาหารเสริมทั้งสองชนิดที่มีชื่อเกือบจะคล้ายกันนั้น เริ่มจากความแตกต่างของกระบวนการในการผลิตเพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารเสริม นั่นก็คือ

  • น้ำมันปลาจะสกัดจากบริเวณเนื้อ หนัง หาง และหัวของปลา ในขณะที่น้ำมันตับปลานั้นจะสกัดแค่เพียงจากส่วนตับของปลาเท่านั้น
  • น้ำมันปลาและน้ำมันตับปลา เป็นแหล่งของสารโอเมก้า 3 ที่มีประโยชน์ทั้งคู่ แต่น้ำมันตับปลาให้สารอาหารที่มากกว่าโอเมก้า 3 นั่นคือ มีวิตามินเอและวิตามินดีร่วมด้วย ซึ่งน้ำมันปลาไม่ได้ให้วิตามินในส่วนนี้

สำหรับผู้ที่ต้องการให้ร่างกายได้รับสารอาหารเสริมประเภทโอเมก้า 3 (Omega 3) การรับประทานน้ำมันปลากับน้ำมันตับปลาถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและสามารถทำได้ เพราะเป็นอาหารเสริมที่มีสรรพคุณให้โอเมก้า 3 โดยตรงและโอเมก้า 3 ที่ได้จากน้ำมันปลากับน้ำมันตับปลา ก็ยังถือว่าดีกว่าโอเมก้า 3 ที่ได้จากพืชอีกด้วย

แต่ถ้าหากต้องเลือกรับประทานอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็อาจจะต้องแยกตามความต้องการของร่างกาย หากต้องการเพียงโอเมก้า 3 จะเลือกน้ำมันปลาหรือน้ำมันตับปลาก็ได้ แต่ถ้าร่างกายมีการขาดแคลนวิตามิน หรือต้องการเสริมวิตามินเอและวิตามินดีให้ร่างกาย การกินน้ำมันตับปลาก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

กินมากไปอาจเกิดอันตราย

น้ำมันปลา

ในกรณีต้องการรับประทานน้ำมันปลาในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรรับประทานในปริมาณที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ และไม่ควรรับประทานน้ำมันปลาในปริมาณมากเกินไป เพราะทำให้มีเลือดออกและเลือดไม่แข็งตัวได้ และหากมีโรคประจำตัว อาทิ โรคหัวใจ หรือผู้ที่ต้องการควบคุมระดับไขมันเลือด ควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณการบริโภคที่เหมาะสมด้วย

น้ำมันตับปลา

วิตามินเอและวิตามินดี เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน หากได้รับวิตามิน 2 ชนิดนี้ในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้มีการสะสมและเพิ่มระดับวิตามินในเลือด จนอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากระดับวิตามินที่สูงมาก และก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะหญิงมีครรภ์ที่ได้รับวิตามินเอในปริมาณมาก อาจเสี่ยงต่อการแท้งบุตรหรือทารกพิการแต่กำเนิดได้

.

.

ติดตาม Life Elevated ได้ที่

Website: www.lifeelevated.club/

Facebook: Life Elevated ชีวิตยกระดับ

Twitter: @_lifeelevated_

Instagram: @lifeelevatedclub

Line OA: @Lifeelevated

Blockdit: Life Elevated

.

.

#LifeElevated #น้ำมันปลา #น้ำมันตับปลา #FishOil #CodLiverOil

.

.

อ้างอิง

https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=1998

https://www.sanook.com/men/899/

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/678187

https://bit.ly/3uldRnS

https://bit.ly/2Zy7NKN

https://bit.ly/2NhK4Mr

https://tonkit360.com/77535

Related Articles

Leave a Comment