“การหายใจ” เป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกชีวิตปฏิบัติเพื่อความอยู่รอด
สิ่งหนึ่งที่ธรรมชาติมอบให้สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตเท่าๆ กัน นั่นก็คืออากาศหายใจ มวลอากาศของโลกใบนี้ทำให้เราเห็นความเชื่อมโยงกันของสิ่งมีชีวิต เพราะไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลกทุกชีวิตก็ใช้อากาศจากแหล่งเดียวกันหายใจ
หายใจเข้า
หายใจออก
บางคนคิดว่าน่าจะเพียงพอแล้ว แต่การหายใจอย่างถูกวิธีสามารถช่วยบำบัดโรคและสร้างพลังชีวิต ซึ่งวงการแพทย์และศาสตร์ตะวันออกให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
ลองสังเกตง่ายๆ เวลาอยู่ริมทะเลหรือในป่าเขา เราจะรู้สึกสดชื่น เหมือนร่างกายได้ชาร์ตแบตเตอรี่ ซึ่งต่างจากการเดินอยู่ริมทางเท้าหรือที่มีคนแออัด เราจะรู้สึกเหนื่อย – อ่อนล้า
การหายใจเป็นเรื่องสำคัญมาก จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหายใจยาวๆ ลึกๆ
ศาสตร์ตะวันออกหรือวงการแพทย์แผนปัจจุบันมีหลักฐานยืนยันว่า การหายใจที่ลึกและยาว มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจมากกว่าการหายใจปกติ ลองนึกถึงตอนเราเครียดมากๆ หัวใจจะเต้นตูมตาม และรู้สึกกดดัน แต่ถ้าเราค่อยๆ หายใจยาวๆ ลึกๆ จะช่วยให้ระบบสันดาปในร่างกายทำงานดีขึ้น
หายใจให้ถูกวิธี
การหายใจคือกระบวนการนำออกซิเจนจากบรรยากาศภายนอกเข้าสู่ร่างกาย หลังจากสันดาปในร่างกายแล้ว จะเกิดคาร์บอนไดออกไซด์ในตอนท้ายแล้วถูกขับออก การขนส่งแก๊สเกิดขึ้นผ่านระบบไหลเวียนของเลือด การแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างเลือดกับเนื้อเยื่อ ซึ่งเกิดขึ้นตามเซลล์ร่างกาย เรียกว่า การหายใจภายใน ส่วนการแลกเปลี่ยนแก๊สระหว่างเลือดกับอากาศภายนอก ซึ่งเกิดในปอด เรียกว่า การหายใจภายนอก
ระบบหายใจแบ่งได้เป็นสองส่วนคือ 1. ทางเดินอากาศ เพื่อให้ลมเข้าออก และ 2. ส่วนหายใจได้แก่ ปอด อันเป็นที่เปลี่ยนแก๊สในเลือดกับอากาศ
ทางเดินของระบบหายใจเป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ สามารถดำเนินไปได้ด้วยตัวเองอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กลไกการควบคุมอัตโนมัติจะส่งสัญญาณผ่านประสาท Phrenic ไปยังกล้ามเนื้อระบบหายใจ กระบังลม และกล้ามเนื้อซี่โครงประสาท Phrenic 2 เส้น แยกจากกระดูกสันหลังส่วนบน (Cervical) ระหว่างข้อที่ 3-4 และ 4-5 ไปยังกระบังลม เส้นประสาท 11 คู่ แยกจากข้อต่อระหว่างกระดูกสันหลังส่วนกลางข้อที่ 1-11 ไปตามกล้ามเนื้อซี่โครง ประสาทที่รับผิดชอบการหายใจเข้า ซึ่งทำให้เกิดการหายใจเข้า แยกจากประสาทที่รับผิดชอบในการหายใจออก ซึ่งทำให้เกิดการหายใจออก
อย่างไรก็ตาม สภาวะอารมณ์มีผลต่อระบบหายใจ ความตกใจ ความกลัว ความตื่นเต้น จะทำให้หายใจเร็วขึ้น ส่วนการแสดงออกทางอารมณ์ อย่างการหัวเราะ การร้องไห้ ต้องอาศัยกลไกการหายใจที่เหมาะสม สมองส่วนบนจะลดการควบคุม ปล่อยให้ศูนย์กลางการหายใจที่สมองส่วนกลางทำหน้าที่เป็นหลัก เช่นเดียวกับอารมณ์สภาวะต่างๆ ทางสมองก็มีผลต่อการหายใจ
หากปรับการหายใจให้ถูกต้อง เราจะควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้ อย่างการถอนหายใจยาวๆ จะช่วยคลายความเกร็งทางอารมณ์ได้ หรือสูดหายใจยาวจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า หายใจได้เต็มปอด
อย่างไรก็ตาม รูปแบบการหายใจที่หลากหลาย ก็มีอิทธิพลต่อสภาวะจิตอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างความเร็วความลึกของลมหายใจ อัตราส่วนการเคลื่อนไหวของปอดกับหน้าท้อง การกลั้นลมหายใจ อัตราส่วนระหว่างลมหายใจเข้า-ออก ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ให้ความสำคัญกับรูปแบบการหายใจที่มีผลต่อระบบประสาท รวมถึงศึกษาผลของลมหายใจต่อกลไกการทำงานของร่างกาย ทั้งกายและจิต
หายใจยาวๆ ช่วยรักษาโรค
เซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายต้องการออกซิเจน เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย แต่ในร่างกายบางคนมีออกซิเจนเหลือน้อยมาก เพราะของเสียและก๊าซเสียในร่างกายมีจำนวนมาก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คนเราต้องเอาของเสียในร่างกายออกให้มากที่สุด โดยการสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไป เพราะปกติแล้วออกซิเจนมีอยู่ในอากาศเพียง 21 เปอร์เซ็นต์ แม้จะหายใจตามปกติ ก็ยังไม่สามารถนำออกซิเจนไปใช้ประโยชน์ในร่างกายได้อย่างเต็มที่
ผู้เชี่ยวชาญด้านออกซิเจนเธอราปี แนะไว้ว่า ต้องหัดหายใจช้าๆ ยาวๆ โดยการหายใจเข้าจนเต็มปอด จากนั้นให้กลั้นหายใจไว้ให้นานที่สุด อากาศดีจะถูกดูดเข้าไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ในร่างกาย ฟอกอากาศในเลือดของเรา แล้วหายใจออกทางปาก เพื่อนำของเสียออกจากร่างกาย
ขณะที่หายใจนิ่งๆ จิตของเราก็จะนิ่งอยู่กับลมหายใจ อนุมูลอิสระก็จะน้อยลงด้วย ทำให้สารก่อเซลล์มะเร็งน้อยลง เพราะพวกอนุมูลอิสระจะทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยก่อนวัย
นอกจากนี้ยังมีผลงานการวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า การหายใจในลักษณะนี้จะช่วยทำให้อนุมูลอิสระเกิดขึ้นน้อยลง คล้ายการหายใจแบบโยคะหรือการนั่งสมาธิ เพราะขณะที่เราหายใจ สภาวะจิตจะนิ่ง ฮอร์โมนความเครียดก็จะน้อยลง
ประโยชน์มากมายจากการหายใจเป็น
จะช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกายและสมองอย่างเต็มที่ ส่งผลต่อการทำงานโดยรวมของร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยให้ร่างกายขับพิษออกมาทางลมหายใจออกได้อย่างเต็มที่ ช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพเพราะวิธีการหายใจที่ถูกต้องจะทำให้ร่างกายของเราอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะที่สุด หลังตรงแต่ผ่อนคลายดูดีขึ้นในท่วงท่าต่างๆ นอกจากนี้การฝึกหายใจจะช่วยให้ร่างกายปรับอัตราการหายใจให้ลดลง หัวใจเต้นช้าลง ส่งผลให้อายุยืน ส่วนด้านจิตใจจะทำให้เป็นคนใจเย็นขึ้น มีสมาธิมากขึ้น
“หายใจ” สิ่งสำคัญ อยู่ใกล้..แค่ปลายจมูก
อ้างอิง
https://www.posttoday.com/life/healthy/566461
https://www.tmwa.or.th/new/view.php?topicid=405
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/899996
https://www.healthymax.net/breathe-properly-good-for-your-health/