Home Creativity “เดดไลน์” ใกล้เข้ามา ทำไม? ปัญญาจึงบรรเจิด

“เดดไลน์” ใกล้เข้ามา ทำไม? ปัญญาจึงบรรเจิด

by Lifeelevated Admin2

“The Greatest Inspiration is the Deadline” แรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยมที่สุดคือวันส่งงาน

ทำไมต้อง Deadline?

การมีอยู่ของเดดไลน์ ช่วยทำให้เรารู้ว่าเป้าหมายของงานนี้คืออะไร ต้องไปจบลงที่ไหนและเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงการวางแผนขั้นตอนการทำงานด้วย เมื่อเราเห็นปลายทางแล้วว่าจะต้องไปหยุดอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ จะช่วยให้เราประมวลผลง่ายขึ้นว่าควรจะทำขั้นตอนนี้ ในตอนไหน ขั้นตอนต่อไป ในตอนไหน และนั่นหมายถึงความรับผิดชอบของเราในฐานะเจ้าของงานด้วยเช่นกัน

          เดดไลน์ช่างน่ากลัว แต่เราก็ยังเห็นหลายคนที่ชอบทำงานแบบใกล้ๆ เดดไลน์ ใกล้มาก ใกล้น้อย ตามอัธยาศัย ทำไมคนเราถึงทำแบบนั้นกันนะ?

ไนรา ไลเบอร์แมน (Nira Liberman) นักจิตวิทยาสังคมจาก Tel Aviv University ได้ศึกษาเรื่องนี้และยกตัวอย่างไว้ว่า เธอเปรียบเทียบเรื่องนี้กับการอ่านหนังสือสิบบท เราต้องไล่จากบทที่หนึ่งไปถึงบทสุดท้าย พอถึงบทที่สิบ เหลือแค่ไม่กี่พารากราฟก็จะจบแล้ว เรามักจะมีแรงพลังจากไหนไม่มีใครรู้ ผลักดันให้เราเหยียบคันเร่งการอ่านมิดไมล์ ไปยังพารากราฟสุดท้ายเหมือนขึ้นทางด่วน เพราะจุดหมายอยู่แค่เอื้อม

“เดดไลน์” ก็เช่นกัน เหมือนมีนิ้วคอยดันหลังให้เราเดินหน้าแบบหยุดเสียไม่ได้ กลายเป็นว่ายิ่งใกล้เรายิ่งมีไฟในการทำงาน เพราะจะต้องส่งแล้วน่ะสิ แต่แนวคิดนี้อาจจะใช้ไม่ได้กับทุกคน หากเราทำสำเร็จ เสร็จก่อนเดดไลน์ ได้งานตามมาตรฐาน เราอาจจะกลายเป็นอัจฉริยะข้ามคืน แต่ถ้างานเสร็จแต่ยุ่ยยับเหมือนผ้ายัดไว้ เราจะกลายเป็นคนชุ่ย ทำงานส่งๆ ร้ายที่สุด คือทำเสร็จไม่ทันเวลา เราจะกลายเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ

ยิ่งความเสี่ยงสูง ราคาที่ต้องจ่ายก็ยิ่งแพง ฉะนั้นหากอยู่ในวงการรักงานเร่ง ก็ต้องรู้ลิมิตตัวเองด้วยเช่นกันว่าเราจะทำทันเวลาไหม และคุณภาพของงานจะยังคงเดิมหรือเปล่า ถ้ายังไปไม่ถึงจุดอัจฉริยะข้ามคืน อยากรู้อยากลอง หรือมีเหตุจำเป็นให้ต้องท้าทายอำนาจเดดไลน์ มาเรียนรู้การทำงานแบบเดดไลน์กับ Life Elevated ก่อนเดดไลน์จริงจะมาถึง

มองหาเดดไลน์ แล้วแพลนให้ดี

สิ่งสำคัญคือ เราต้องรู้ Ability ของตัวเองว่า เราใช้เวลากับงานชิ้นนี้เท่าไหร่ ทำแบบหลวมๆ ไม่ต้องเร่ง ใช้เวลาเท่าไหร่ แล้วแบบเร่งสปีดสุดชีวิตล่ะ ใช้เวลาเท่าไหร่ ทดเลขนั้นไว้ในใจ แล้วไปหาที่ลงกันดีกว่า

สมมุติว่าวันศุกร์นี้ คือวันที่ต้องส่งงานชิ้นนี้ ลองเอาเวลาที่ต้องใช้ทำงานไปแปะในช่วงเวลาก่อนวันศุกร์ แบบไหนเป็นไปได้มากที่สุด ยิ่งเดดไลน์สั้นลง เราก็ต้องเร่งสปีดมากขึ้น วางแผนให้ดี

เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม

เมื่อรู้แล้วว่างานต้องเสร็จะพร้อมเสิร์ฟในวันไหน เมนูอะไร อย่าลืมวางแผนว่า จะต้องใช้วัตถุดิบอะไรบ้าง และเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนลงมือทำ เพราะถ้าหากอยากท้าทายเวลา เราไม่อาจเสียเวลาไปกับขั้นตอนเล็กน้อยได้ และเตรียมสิ่งที่จำเป็นในการทำงานไว้ก่อน เช่น ข้อมูลอ้างอิง เนื้อหา หรืออะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันไว้ก่อน เมื่อถึงเวลาต้องลงมือปรุงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องสาละวนกับการค้นตู้เย็น จนเสียเวลาการปรุงไปอีกหลายส่วน

ทำตัวให้ว่างสำหรับงานที่จำเป็น

จะส่งงานไวๆ นี้แล้ว แต่ยังวนเวียนอยู่กับงานอื่นที่ไม่เร่งด่วนนัก ไม่ได้สำคัญเท่างานนี้ หรือมัวแต่ทำกิจกรรมอื่นๆ ตามใจฉัน รีบเคลียร์ตัวเองให้ว่างสำหรับงานที่จะมาถึงก่อนดีกว่า แม้จะไม่อยากทำแค่ไหน แต่การลำดับความสำคัญของงานก็ควรมาอันดับหนึ่ง ไม่งั้นเราอาจจะกลายเป็นกระต่ายที่มัวหลับข้างทาง จนเส้นชัยวิ่งมาปลุกเราแทนก็ได้

มีเดดไลน์ให้ตัวเอง ก่อนที่ของจริงจะมาถึง

แม้ว่าจะมีเดดไลน์ตัวเป็นๆ รออยู่ข้างหน้า แต่อย่าให้ถึงขนาดที่เสร็จปุ๊บส่งปั๊บแบบไม่ได้ตรวจทานอะไรเลย เพราะเราอาจบกพร่องเรื่องคุณภาพไป โดยไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าอาจผิดพลาดไปตรงไหน ลองหาเดดไลน์ให้ตัวเองก่อนเวลาจริงมาถึง เหตุการณ์เดิม ส่งงานวันศุกร์ เราให้ตัวเองช้าสุดได้ตอนไหน สักคืนวันพฤหัสบดีไหม แบบไม่ข้ามไปคืนวันศุกร์ อะไรทำนองนี้ จะช่วยให้เราไม่ต้องเหยียบเส้นยาแดงผ่าแปดจนเกินไป

หวังว่าต่อจากนี้คุณจะรัก Deadline มากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ก็อย่าปล่อยให้การสร้างแรงจูงใจในการทำงาน เป็นหน้าที่ของ Deadline เพียงอย่างเดียวล่ะ

 

 

 

อ้างอิง

https://www.the101.world/the-important-of-deadline/

https://thematter.co/thinkers/deadline/37654

https://www.mangozero.com/5-trick-you-can-win-deadline/

https://bit.ly/35g3BmE

https://thematter.co/social/deadline-is-faster-than-karma/127777

https://storylog.co/story/5eae58223c4c6d4421bfa295

https://www.unlockmen.com/deadline-is-good/

https://www.choojaiproject.org/2016/11/talking-about-deadline/

Related Articles

Leave a Comment